เพราะในบ้านเราอย่างที่รู้กันดีว่ามีลักษณะอากาศร้อนชื้น จึงทำให้บริเวณใต้ร่มผ้าอย่างบริเวณขาหนีบเกิดความอับชื้นได้ง่าย หากพูดถึงปัญหาโรคผิวหนังที่ผู้หญิงอย่างเราต้องเผชิญ โรค “เชื้อราที่ขาหนีบ” ถือเป็นโรคที่คุณสาวๆ ทั้งหลาย มีโอกาสเป็นได้ง่าย จนกลายเป็นผดผื่นแดง และมีอาการคันตามมา ลักษณะอาการของหลายคนที่เป็นมักจะอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องเกาอยู่ตลอด และยิ่งเกามากๆ ผิวหนังก็จะยิ่งถลอก กลายเป็นว่าปวดร้อนปวดแสบไปอีก ทั้งนี้หากปล่อยไว้ไม่รีบรักษา เชื้อราก็อาจจะลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นได้ นอกจากจะทรมาณแล้วยังทำให้เสียบุคลิกด้วยนะคะ

ดังนั้นเชื้อราที่ขาหนีบผู้หญิง ก็ถือเป็นภัยเงียบที่ผู้หญิงอย่างเราไม่ควรมองข้าม ว่าแต่เชื้อราที่ขาหนีบอันตรายแค่ไหน เกิดจากอะไร วันนี้ 88แว็กซ์คลับ คลับกำจัดขน แว็กขน ของคนรักผิว มีข้อมูลมาให้ได้ศึกษากันแล้วค่ะ

เพราะอะไรถึงเกิดเชื้อราที่ขาหนีบ

เชื้อรานี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ใช้ผ้าขนหนู หรือใส่กางเกงผ้าหนาๆ ซ้ำกันเป็นเวลาหลายวัน หรือใช้เสื้อผ้าร่วมกับผู้ที่มีเชื้อรากลุ่ม Dermatophyte โดยเชื้อรา Dermatophyte นี้ เมื่อบริเวณขาหนีบเกิดความสกปรก อับชื้น หรือเหงื่อออกมากจึงทำให้เชื้อราเหล่านั้นเพิ่มจำนวนมากขึ้น จะทำให้ชั้นหนังกำพร้าเกิดโรคที่มีลักษณะเป็นผื่นแดงอักเสบ ทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ เป็นผดผื่นแดง และเริ่มมีอาการคันตามมาค่ะ

เชื้อราที่ขาหนีบรักษาอย่างไร

สำหรับคุณสาวๆ คนไหนที่รู้ตัวว่าเป็นเชื้อราที่ขาหนีบ ให้รีบไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการตรวจและรักษาไว้ก่อนดีกว่า ทั้งนี้แพทย์อาจจะให้ยามารับประทานหรือให้ยามาทา ซึ่งก็ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และเมื่ออาการทุเลาลงแล้ว และเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อรากลับมาเป็นซ้ำอีก ควรทานยาหรือทายาต่ออีกสักระยะ

แต่สำหรับใครที่ทายาแล้วไม่ดีขึ้น ไม่ควรชะล่าใจ ควรรีบรักษาก่อนที่เชื้อราจะลามไปยังส่วนอื่น โดยยาที่รักษาเชื้อราที่ขาหนีบมักจะเป็นยาประเภท Ketoconazole หรือ Clotrimazole โดยให้ทาบริเวณที่เป็นผื่นทุกเช้าเย็นหลังอาบน้ำ ส่วนใหญ่แล้วประมาณ 2-3 สัปดาห์ก็จะหายไปเองได้ค่ะ

เชื้อราที่ขาหนีบป้องกันได้อย่างไร

รู้จักสาเหตุของโรคเชื้อราที่ขาหนีบ รวมถึงวิธีรักษาและป้องกันกันแล้ว คราวนี้คุณสาวๆ ก็คงรู้แล้วว่าเมื่อมีอาการเกิดขึ้นควรจะดูแลตัวเองและรักษาอย่างไร ทั้งนี้อย่าปล่อยไว้จนลุกลาม ทางที่ดีเมื่อรู้ตัวว่าเป็นแล้วควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาจะดีที่สุด จะได้หายเร็วทันใจ และไม่ต้องกังวลว่าจะเสียบุคลิกภาพนะคะสาว ๆ

เมื่อรักษาหายดีแล้ว สิ่งที่ควรทำเพื่อป้องกันเชื้อราที่ขาหนีบไม่ให้กลับมาเป็นอีกคือ ควรหมั่นรักษาความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นหรือบริเวณขาหนีบอยู่เสมอ ไม่ควรปล่อยให้อับชื้น ทั้งนี้หลังอาบน้ำควรใช้ผ้าขนหนูสะอาด เช็ดให้แห้ง ไม่ควรใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่นด้วย เช่น เสื้อผ้า กางเกง ชุดชั้นใน หรือผ้าขนหนู เป็นต้น และควรใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่รัดตัวมาก รวมถึงอย่าใส่กางเกงตัวเดียวซ้ำกันหลายวัน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเทคนิคดูแลผิวง่ายๆ หากสนใจอยากลองผลิตภัณ์สำหรับการบำรุงผิวอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นก่อนและหลังการแว็กซ์ขน ลองเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากทาง 88waxclub กันดูได้นะคะ ด้วยประสบการณ์ในการดูแลผิวพรรณให้เนียนใสไร้ขนมากว่า 10 ปี และผลิตภัณฑ์ทุกตัวของเราก็ล้วนแล้วแต่ใช้ส่วนผสมแท้จากธรรมชาติ เพื่อสรรพคุณในการดูแลผิวที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นครีมแว็กซ์สมุนไพรน้ำผึ้งแท้, บอดี้สครับ, เจลอาบน้ำสูตรธรรมชาติ, โทนเนอร์ที่มาพร้อมกับสูตรปรับสภาพผิว, เจลบำรุงผิวจากน้ำแร่และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ และน้ำนมเข้มข้นสมุนไพรสูตรสปาผิว เราก็มีไว้ให้คุณได้ลองใช้และสัมผัสถึงสรรพคุณอันอ่อนโยนจากธรรมชาติกันค่ะ


Due to the well-known hot and humid climate in our homes, the area under clothing, especially in the groin region, is prone to moisture buildup. When it comes to skin issues faced by women, “fungal infection in the groin area” is a common problem. It can lead to red rashes and itching, making it uncomfortable to move or walk. If left untreated, the condition may worsen, causing pain and discomfort, and the infection may spread to other areas. So, it’s a silent threat that women should not overlook. Today, 88 Wax Club, a hair removal club for skincare enthusiasts, provides information on this issue.

Why Does Fungal Infection in the Groin Occur? This type of fungal infection can result from various causes, such as using damp towels, repeatedly wearing thick pants, or sharing clothes with individuals carrying Dermatophyte fungi. Dermatophyte fungi thrive in moist and sweaty conditions, leading to increased fungal growth. This can cause the skin in the groin area to develop a red and inflamed rash, accompanied by itching.

How to Treat Fungal Infection in the Groin For those who suspect they have a fungal infection in the groin area, it’s crucial to consult a dermatologist for examination and prompt treatment. The doctor may prescribe oral medications or topical creams, and it’s essential to follow their recommendations diligently. With proper treatment, symptoms usually improve within 2-3 weeks.

Preventing Fungal Infection in the Groin Once the infection is successfully treated, preventing a recurrence is essential. Maintain cleanliness in concealed areas, ensuring they stay dry. Use clean towels after bathing and avoid sharing personal items such as clothes. Opt for breathable, loose-fitting clothes that allow good air circulation to prevent excessive sweating. Avoid wearing the same pair of pants for consecutive days.

These skincare tips are vital for managing and preventing fungal infections in the groin. If you experience symptoms, seek medical attention promptly for the best and fastest recovery. After successful treatment, focus on personal hygiene and follow preventive measures to avoid a recurrence. Explore the skincare products from 88 Wax Club for a comprehensive and effective skincare routine. With over a decade of experience, our products use natural ingredients for optimal skin care, ensuring a gentle and effective approach to maintaining healthy skin.

Similar Posts